ราคาดัชนี, ราคา Mark และราคาสุดท้ายคืออะไร

ในการเทรดอนุพันธ์คริปโทเคอร์เรนซีบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ราคาดัชนี, ราคา Mark และราคาสุดท้ายเป็นแนวคิดพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเทรด มาสำรวจกันว่าคำศัพท์เหล่านี้หมายถึงอะไรและส่งผลต่อการเทรด Futures อย่างไร

ทำไมต้องมีราคาดัชนี, ราคา Mark และราคาสุดท้าย

ในการเทรด Spot คุณจะแลกเปลี่ยนสินทรัพย์อย่างหนึ่งในจำนวนหนึ่งกับสินทรัพย์อีกชนิดหนึ่งในจำนวนที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ในการเทรดอนุพันธ์อย่าง Futures คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง แต่คุณจะเทรดสัญญา Futures ที่ติดตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์แทน ผลที่ตามมาคือ ตลาด Futures ต้องพึ่งพาข้อมูลราคาตลาด Spot เพื่ออำนวยความสะดวกทั้ง Long และ Short Position ทำให้ราคาดัชนี, ราคา Mark และราคาสุดท้ายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเทรด Futures

● การจัดการความเสี่ยง: ราคา Mark และราคาดัชนีช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด Liquidation (การบังคับขาย) ที่เกิดจากความผันผวนอย่างรุนแรงในตลาด

● การเทรดที่ยุติธรรม:ราคา Mark และราคาดัชนีช่วยป้องกันการปั่นราคา และทำให้มั่นใจได้ว่าการเทรด Futures จะมีการดำเนินการอย่างยุติธรรม

● การตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน: ราคาสุดท้ายให้ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ

ราคาดัชนี, ราคา Mark, ราคาสุดท้าย: ความแตกต่างและคุณสมบัติ

ราคาดัชนีคืออะไร

ราคาดัชนี แสดงถึงค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของราคา Spot ของโทเค็นจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรายใหญ่ต่างๆ เนื่องจากราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน การคำนวณราคาดัชนีจึงขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าแพลตฟอร์มใดที่ถือเป็น “แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรายใหญ่” ซึ่งในการคำนวณราคาดัชนีจะคำนวณเฉพาะข้อมูลจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่เลือกเหล่านี้เท่านั้น

วิธีคำนวณราคาดัชนี:

ราคาดัชนี = (ราคา Spot บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน A × น้ำหนัก A) + (ราคา Spot บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน B × น้ำหนัก B) +…

โดยปริมาณการเทรดที่สูงก็จะส่งผลให้มีน้ำหนักที่สูงขึ้นในการคำนวณดัชนี ซึ่งหมายความว่า ยิ่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนมีปริมาณการเทรดมาก ก็จะยิ่งมีอิทธิพลต่อราคาดัชนีมาก

ราคาดัชนีช่วยให้มั่นใจได้ถึงการกำหนดราคาที่ยุติธรรมและแม่นยำสำหรับการเทรดอนุพันธ์ ซึ่งรวมถึง Futures, Perpetual Futures และ Funding Rate โดยมีจุดประสงค์คือการทำให้แน่ใจว่าอนุพันธ์ Futures จะได้รับการชำระราคาในราคาที่ยุติธรรม

ในฐานะที่ Bitget เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดอนุพันธ์ชั้นนำในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี Bitget จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับชั้นนำให้กับผู้ใช้ในราคาที่ยุติธรรมและแม่นยำ ราคาดัชนีของ Bitget นั้นมีที่มาจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchange) ชั้นนำหลายแห่ง

คุณสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของราคาดัชนีสำหรับคู่เทรดเฉพาะได้ที่ด้านล่างของหน้า “ข้อมูลการเทรด Futures / Futures trading data” > “ดัชนีราคา / Price index ” บน Bitget ดังที่แสดงในภาพด้านล่าง

ราคา Mark คืออะไร

ราคา Mark เป็นปัจจัยสำคัญในการเทรดอนุพันธ์ โดยใช้เพื่อทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย), คำนวณเลเวอเรจ และประเมินกำไรและขาดทุน (PNL) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งช่วยให้แน่ใจได้ถึงราคา Liquidation ที่ยุติธรรมและป้องกันการปั่นราคา

ประเด็นสำคัญ:

● ราคา Mark นั้นใช้เพื่อคำนวณ Unrealized PNL แต่จะไม่ส่งผลต่อ PNL ที่เกิดขึ้นจริงโดยตรง

● Position จะถูก Liquidate (บังคับขาย) ก็ต่อเมื่อราคา Mark มาแตะราคา Liquidation เท่านั้น

โดยทั่วไปราคา Mark จะมาจากจุดกึ่งกลางของราคาใน Order Book แต่ก็ยังเชื่อมโยงกับราคาดัชนีเพื่อให้แน่ใจได้ถึงความยุติธรรมและเป็นการป้องกันไม่ให้เบี่ยงเบนออกจากราคา Spot มากเกินไป ซึ่งหมายความว่าราคา Mark นั้นได้รับอิทธิพลจากราคา Spot ของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรายใหญ่ต่างๆ และมีการคำนวณราคา Mark ที่แตกต่างกันไปสำหรับอนุพันธ์แต่ละตัว แต่เพื่อให้คู่มือเบื้องต้นนี้เรียบง่าย เราจะพูดถึงเฉพาะแนวคิดหลักของราคา Mark เท่านั้น โดยไม่ลงรายละเอียดถึงสูตรต่างๆ ที่ซับซ้อน

นอกเหนือจากราคาดัชนีแล้ว ราคา Mark ยังมาจากปัจจัยอื่นด้วย นั่นคือเกณฑ์มาตรฐานของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานนี้จะอัปเดตราคาเฉลี่ยของโทเค็นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่กำหนด เป็นการช่วยเกลี่ยความผันผวนของราคาในช่วงที่มีความผันผวนสูงและป้องกันไม่ให้เกิด Liquidation (การบังคับขาย) ที่ไม่จำเป็น

เราจำเป็นต้องเน้นย้ำว่าราคา Mark นั้นมีบทบาทสำคัญในการคำนวณเลเวอเรจ, การประเมิน PNL และการทริกเกอร์ Liquidation (การบังคับขาย)

ราคาสุดท้ายคืออะไร

ราคาสุดท้ายหมายถึงราคาการเทรด Futures ครั้งล่าสุดที่มีการดำเนินการ โดยมีการอัปเดตราคาแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ราคา Mark นั้นใช้ในการคำนวณ Unrealized PNL ราคาสุดท้ายจะกำหนด Realized PNL

ตัวอย่างเช่น ในตลาด BTCUSDT Perpetual Futures นั้นราคา Futures จะได้รับอิทธิพลจากราคา Spot ของ Bitcoin อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนักเทรดซื้อและขาย BTCUSDT Futures บน Bitget อย่างแข็งขัน อุปทานและอุปสงค์อาจทำให้เกิดราคา Futures ที่ต่างจากราคา Spot ของ Bitcoin ได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ราคาสุดท้ายของสัญญา Futures อาจค่อยๆ ขยับออกห่างจากราคา Spot ของสินทรัพย์อ้างอิง และเมื่อปริมาณการเทรดในตลาด Futures เพิ่มขึ้น ช่องว่างราคานี้ก็อาจกว้างขึ้นได้ เพื่อให้แน่ใจว่าการกำหนดราคามีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ Bitget จึงใช้ราคา Mark แทนราคาสุดท้ายในการคำนวณหลัก

บทสรุป

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับราคาดัชนี, ราคา Mark และราคาสุดท้ายถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักเทรด Futures เพราะกลไกการกำหนดราคาเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการคำนวณ Margin และกระบวนการ Liquidation (การบังคับขาย) อีกด้วย