คู่มือผู้ใช้ใหม่ (2025): การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA)
การทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับ 1 มาโดยตลอดในภูมิทัศน์คริปโตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้ ที่ Bitget เรามุ่งมั่นที่จะเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ใช้ด้วยเครื่องมือที่แข็งแกร่งและคู่มือที่ชัดเจนในการรักษาความปลอดภัยบัญชีผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ คู่มือนี้ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ใหม่โดยเฉพาะ โดยมีคำอธิบายทีละขั้นตอนในการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็น เช่น การเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) และการตั้งค่าความปลอดภัยขั้นสูงอื่นๆ ด้วยการใช้แนวปฏิบัติเหล่านี้ คุณจะสามารถเทรดคริปโทเคอร์เรนซีได้อย่างมั่นใจพร้อมกับปกป้องสินทรัพย์ของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ความปลอดภัยของบัญชี
ความปลอดภัยของบัญชีเป็นรากฐานของประสบการณ์การเทรดที่สำเร็จและปลอดภัยบน Bitget การปกป้องบัญชีของคุณจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและแนวทางปฏิบัติที่ดี หัวข้อนี้จะแนะนำคุณเกี่ยวกับขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องบัญชีของคุณและทำให้มั่นใจว่าคุณจะเทรดได้อย่างอุ่นใจ โดยหากไม่มีการตั้งค่าความปลอดภัยใดๆ เพิ่มเติม ระบบจะมองว่าบัญชี Bitget ของคุณเป็นบัญชีที่มีระดับความปลอดภัยต่ำ (ตามที่แสดงด้านล่าง) และคุณจะได้รับการเตือนให้กำหนดการตั้งค่าความปลอดภัยหลักด้วย
การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย
คุณสามารถดูรายการวิธีการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัยทั้งหมดได้ โดยการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) เป็นการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งที่กำหนดให้คุณต้องยืนยันตัวตนโดยใช้วิธีที่ 2 เพิ่มเติมจากรหัสผ่านของคุณ เช่น รหัสจากแอปหรือ SMS โดยหากคุณสร้างบัญชี Bitget ใหม่โดยใช้อีเมล การยืนยันทางอีเมลก็จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ (ดูที่จุดสีน้ำเงิน) ในทำนองเดียวกัน หากคุณลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือไว้ การยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือก็จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ สำหรับคู่มือนี้ เราจะสาธิตการกำหนดค่าความปลอดภัยสำหรับบัญชีที่สมัครด้วยอีเมล
Google Authenticator
Google Authenticator เป็นแอปมือถือที่สร้างรหัสแบบใช้ครั้งเดียวที่มีการจำกัดเวลาซึ่งใช้สำหรับ 2FA อันเป็นหนึ่งในแนวปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยที่นิยมใช้กันมากที่สุดเพราะช่วยเพิ่มการปกป้องที่แข็งแกร่งอีกชั้นหนึ่งให้กับบัญชีของคุณ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีเพียงคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ แม้ว่ารหัสผ่านของคุณจะถูกเจาะได้ก็ตาม
สำหรับเว็บไซต์ Bitget
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่หน้าการตั้งค่าความปลอดภัย บน Bitget โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ของคุณแล้ว
ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ [กำหนดค่า / Configure] ใต้วิธี Google Authenticator
ขั้นตอนที่ 3: หากคุณยังไม่มีแอป Google Authenticator ในโทรศัพท์ของคุณ ก็เพียงดาวน์โหลดโดยใช้ QR Code จาก Bitget แล้วเข้าสู่ระบบบัญชี Google ของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: หากคุณไม่เคยใช้ Google Authenticator มาก่อน คุณจะเห็นปุ่ม [ใส่รหัส / Add the code] ในหน้าแรกของแอปทันทีที่เข้าสู่ระบบ โปรดแตะที่ปุ่มนั้น
หรืออีกทางหนึ่ง ให้แตะที่ไอคอนเครื่องหมายบวกที่มุมขวาล่างของแอป แล้วแตะที่ [ป้อนคีย์การตั้งค่า / Enter a setup key] หรือ [สแกนคิวอาร์โค้ด / Scan a QR code] เพื่อดำเนินการต่อ
ขั้นตอนที่ 5: เนื่องจากคุณกำลังใช้เว็บไซต์ Bitget การสแกน QR Code เพื่อผูกบัญชี Bitget ของคุณกับแอป Google Authenticator บนโทรศัพท์จึงเป็นตัวเลือกที่เร็วกว่า หากต้องการ คุณก็ยังสามารถคัดลอกรหัสที่แสดงในเว็บไซต์และวางลงในแอป Google Authenticator ได้
หลังจากผูกสำเร็จแล้ว คุณจะเห็นตัวเลือก Bitget ในแอป Google Authenticator พร้อมด้วยวันที่ผูกและอีเมลที่คุณใช้ลงทะเบียนบัญชี Bitget ของคุณ จุดสีน้ำเงินที่ทำเครื่องหมายไว้ที่นี่คือตัวแสดงการนับเวลาถอยหลัง ซึ่งแสดงเวลาที่เหลือก่อนที่ One-Time Password (OTP) ปัจจุบันจะหมดอายุและมีการสร้างรหัสผ่านใหม่
ขั้นตอนที่ 6: ป้อนรหัส 6 หลักจากแอป Google Authenticator ลงในเว็บไซต์ Bitget เพื่อดำเนินการต่อ จากนั้นระบบจะขอให้คุณป้อนรหัส 6 หลักที่ส่งไปยังอีเมลของคุณเพื่อทำการกำหนดค่าให้เสร็จสิ้น คลิก [ส่ง / Send] แล้วป้อนรหัส และคลิก [ยืนยัน / Confirm] โปรดทราบว่ารหัสนี้จะมีอายุเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 7: เสร็จเรียบร้อยแล้ว! ตอนนี้คุณจะเห็นว่า Google Authenticator ได้เปิดใช้งานแล้ว!
สำหรับแอป Bitget
ขั้นตอนที่ 1: แตะที่ไอคอนตารางที่มุมซ้ายบนของแอป Bitget จากนั้นแตะที่พื้นที่โปรไฟล์ตามที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 2: แตะที่ [ความปลอดภัย / Security] จากนั้นแตะที่ [Google Authenticator]
หากคุณยังไม่มีแอป Google Authenticator ในโทรศัพท์ของคุณ ก็เพียงดาวน์โหลดโดยใช้ QR Code จาก Bitget แล้วเข้าสู่ระบบบัญชี Google ของคุณ แตะ [ถัดไป / Next] บนแอป Bitget เพื่อดำเนินการต่อ
ขั้นตอนที่ 3: ตอนนี้ให้ไปที่แอป Google Authenticator แล้วแตะปุ่ม [ใส่รหัส / Add the code] บนหน้าแรกของแอปทันทีที่เข้าสู่ระบบ หรือแตะไอคอนเครื่องหมายบวกที่มุมขวาล่างของแอป แล้วแตะที่ [ป้อนคีย์การตั้งค่า / Enter a setup key] หรือ [สแกนคิวอาร์โค้ด / Scan a QR code] เพื่อดำเนินการต่อ เนื่องจากคุณกำลังใช้โทรศัพท์และต้องสลับไปมาระหว่างแอป ดังนั้นการคัดลอกรหัสแล้ววางลงในแอป Google Authenticator อาจจะเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถสแกน QR Code จาก Bitget เพื่อผูกบัญชี Bitget ของคุณกับแอป Google Authenticator ได้
เมื่อทำการผูกเสร็จแล้ว ให้คัดลอกรหัส 6 หลักจาก Google Authenticator แล้วนำกลับไปวางในแอป Bitget แล้วคลิก [ถัดไป / Next]
ขั้นตอนที่ 4: ระบบจะส่งรหัส 6 หลักไปยังที่อยู่อีเมลของคุณหลังจากขั้นตอนการผูก ให้คัดลอกและวางลงในแอป Bitget แล้วคลิก [ยืนยัน / Confirm]
ระบบจะนำคุณไปยังหน้าโปรไฟล์ของคุณโดยอัตโนมัติ ตอนนี้คุณจะเห็นว่า Google Authenticator ได้เปิดใช้งานแล้ว!
Passkey
Passkey เป็นวิธีการตรวจสอบสิทธิ์อันล้ำสมัยที่ไม่ต้องใช้รหัสผ่าน (Passwordless) ซึ่งใช้ Key การเข้ารหัสเพื่อเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านแบบดั้งเดิม วิธีนี้มีความสำคัญเนื่องจากช่วยยกระดับความปลอดภัยโดยการกำจัดช่องโหว่อย่างรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายและฟิชชิ่ง
สำหรับเว็บไซต์ Bitget
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่หน้าการตั้งค่าความปลอดภัย บน Bitget โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ของคุณแล้ว จากนั้นคลิกที่ [กำหนดค่า / Configure] ใต้วิธี Passkey
ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ [เพิ่ม / Add]
อ่านข้อสงวนสิทธิ์และทำเครื่องหมายถูกในช่องข้อตกลงก่อนคลิก [ส่ง / Submit]
ขั้นตอนที่ 3: เลือกวิธีการที่คุณต้องการใช้สำหรับ Passkey สำหรับตัวอย่างนี้ ผู้ใช้เลือก [อุปกรณ์ iPhone, iPad หรือ Android]
ขั้นตอนที่ 4: ใช้โทรศัพท์ของคุณหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ สแกน QR Code ที่สร้างโดย Bitget เพื่อบันทึก Passkey
ขั้นตอนที่ 5: เมื่อคุณสแกน QR ด้วยกล้องของคุณ (โปรดทราบว่ากล้องจะต้องอยู่ในโหมดภาพถ่าย (Photo) เนื่องจากกล้องจะไม่สามารถอ่าน QR Code ในโหมดภาพบุคคล (Portrait) วิดีโอ หรือโหมดอื่นๆ) คุณจะเห็นป้ายที่ระบุว่า [บันทึก Passkey / Save a passkey] ให้คลิกที่ป้ายนั้นและยอมรับการเปิด Face ID สำหรับ Passkey เพื่อใช้ Face ID ของคุณเป็น Key แทนที่จะต้องจดจำรหัสผ่าน ในโทรศัพท์ Android โดยทั่วไปแล้ว วิธี Passkey มักจะใช้การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยไบโอเมทริกซ์ เช่น การสแกนลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า หรืออีกทางหนึ่งคือ PIN อุปกรณ์ที่ปลอดภัย
ตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว Passkey ที่แสดงที่นี่ช่วยให้คุณเข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งรหัสผ่านแบบดั้งเดิม ด้วย Passkey ที่ผูกกับอุปกรณ์ของคุณ (เช่น iPhone) คุณสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไบโอเมทริกซ์ของอุปกรณ์ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ Face ID
สำหรับแอป Bitget
ขั้นตอนที่ 1: แตะที่ไอคอนตารางที่มุมซ้ายบนของแอป Bitget
จากนั้นแตะที่พื้นที่โปรไฟล์ตามที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 2: แตะที่ [ความปลอดภัย / Security] แล้วแตะที่ [Passkey]
จากนั้นแตะที่ [เพิ่ม Passkey / Add passkey]
อ่านข้อสงวนสิทธิ์และทำเครื่องหมายถูกในช่องข้อตกลงก่อนแตะ [ยืนยัน / Confirm]
ขั้นตอนที่ 3: ระบบจะขอให้คุณป้อนรหัส 6 หลักที่ส่งไปยังอีเมลของคุณและรหัสจากแอป Google Authenticator เพื่อดำเนินการต่อ
ส่วนผู้ใช้ที่ใช้ iPhone และได้รับการขอให้เปิดใช้งาน Face ID สำหรับ Passkey เพื่อใช้ Face ID ของคุณเป็น Key แทนที่จะต้องจดจำรหัสผ่าน
ในโทรศัพท์ Android โดยทั่วไปแล้ว วิธี Passkey มักจะใช้การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยไบโอเมทริกซ์ เช่น การสแกนลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า หรืออีกทางหนึ่งคือ PIN อุปกรณ์ที่ปลอดภัย
ขั้นตอนที่ 4: ตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว Passkey ที่แสดงที่นี่ช่วยให้คุณเข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งรหัสผ่านแบบดั้งเดิม ด้วย Passkey ที่ผูกกับอุปกรณ์ของคุณ (เช่น iPhone) คุณสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไบโอเมทริกซ์ของอุปกรณ์ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ Face ID
หมายเลขโทรศัพท์มือถือ
การยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ผูกบัญชีของคุณเข้ากับหมายเลขโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนได้โดยใช้รหัส SMS และเพื่อให้มั่นใจได้ถึงการปกป้องเพิ่มเติมสำหรับการกู้คืนบัญชีและการอนุมัติธุรกรรม
สำหรับเว็บไซต์ Bitget
ขั้นตอนที่ 1: ไปที่หน้าการตั้งค่าความปลอดภัย บน Bitget โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เข้าสู่ระบบบัญชี Bitget ของคุณแล้ว
หลังจากที่คุณทำการกำหนดค่า Google Authenticator และ Passkey เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระดับความปลอดภัยของบัญชีคุณจะกลายเป็นระดับปานกลาง
ขั้นตอนที่ 2: คลิกที่ [กำหนดค่า / Configure] ใต้วิธี “การยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือ / Phone number verification”
ขั้นตอนที่ 3: ป้อนรหัสประเทศ หมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ และคลิก [ส่ง / Send] ตามที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่างเพื่อรับรหัส SMS โปรดคัดลอกรหัส SMS ที่ส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณและคลิก [ส่ง / Submit]
ขั้นตอนที่ 4: ระบบจะขอให้คุณป้อนรหัส 6 หลักที่ส่งไปยังอีเมลของคุณและรหัสจากแอป Google Authenticator
สำหรับแอป Bitget
ขั้นตอนที่ 1: แตะที่ไอคอนตารางที่มุมซ้ายบนของแอป Bitget
แตะที่พื้นที่โปรไฟล์ตามที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 2: หลังจากที่คุณทำการกำหนดค่า Google Authenticator และ Passkey เสร็จเรียบร้อยแล้ว ระดับความปลอดภัยของบัญชีคุณจะกลายเป็นระดับปานกลาง แตะที่ [ความปลอดภัย / Security] แล้วแตะ [หมายเลขโทรศัพท์มือถือ / Mobile Number]
ป้อนรหัสประเทศ หมายเลขโทรศัพท์มือถือของคุณ และคลิก [ส่ง / Send] ตามที่ทำเครื่องหมายไว้ด้านล่างเพื่อรับรหัส SMS โปรดคัดลอกรหัส SMS ที่ส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณและคลิก [ส่ง / Submit]
ระบบจะขอให้คุณป้อนรหัส 6 หลักที่ส่งไปยังอีเมลของคุณและรหัสจากแอป Google Authenticator เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
2FA วิธีอื่นๆ
หลังจากที่คุณได้เปิดใช้งานการยืนยันทางอีเมล, Google Authenticator, Passkey และการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์มือถือแล้ว คุณจะเห็นว่าบัญชีของคุณมีระดับความปลอดภัยเป็นสูงแล้ว หากคุณใช้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยไบโอเมทริกซ์สำหรับ Passkey คุณจะเห็นว่าวิธีดังกล่าวเองก็เปิดใช้งานด้วยเช่นกัน
ดังที่แสดงบนเว็บไซต์ Bitget:
ดังที่แสดงในแอป Bitget:
